วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

3 ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค


             หลายท่านมีคำถามมากมายเกี่ยวกับแบตเตรอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จ, แบตเสื่อม ประหยัดแบต โน๊ตบุ๊ค และอีกมากมาย เนื่องด้วยในบรรดาอุปกรณ์ภายในโน๊ตบุ๊คของเราส่วนมาก สิ่งที่จะมีปัญหาอันดันแรก นั้นก็คือแบตเตอรี่ ซึ่งหากใช้งานไม่ถูกต้อง ซื้อมาเพียงไม่กี่เดือนแบตก็เสื่อมแล้วครับผม ทำให้เป็นปัญหาเวลาใช้นอกสถานที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโน๊ตบุ๊คที่เป็นอัลตร้าบุ๊คที่เน้นการพกพาเพราะถ้าใช้แล้วแบตหมดเร็วก็ไม่รู้จะซื้อมาพกพาทำไม อิอิ ถ้ามันมีพาวเวอร์แบงค์ให้ชาร์จก็คงดี ฮาๆ เอาหละครับ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาดูความเข้าใจผิดๆ เพื่อให้เราเข้าใจถูกเกี่ยวกับแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คกันเลยดีกว่าครับ

1. ปล่อยให้แบตเตอรี่หมดก่อนแล้วค่อยชาร์จ

               ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าโน้ตบุ๊คหรือโทรศัพท์มือถือต่างก็เปลี่ยนมาใช้แบจเตอรี่ประเภท Lithium-ion หรือที่เราเรียกกัน Li-ion นั้นแหละครับ หรืออีกแบบหนึ่งก็คือ?Lithium-ion Polymer ตัวนี้ก็เรียกกันสั้นๆ ว่า Li-Pol ที่เปลี่ยนก็เพราะว่ารุ่นเก่านั้นมีปัญหาเรื่องอายุการงานที่สั้น แต่รุ่นที่กล่าวมาข้างต้นก็ใช่ว่ามันจะดีไปซะทุกอย่างนะครับทุกสิ่งล้วนมีข้อดีและข้อเสีย ส่วนข้อเสียของแบต?Lithium-ion นั้นก็คือ
– ความร้อน?เรื่องความร้อนนั้นเป็นของคู่กับโน้ตบุ๊คด้วยเลยก็ว่าได้ ส่วนสำหรับแบตเตอรี่นั้นหากได้รับความร้อนนานๆ อายุก็จะสั้นลงไม่ประหยัดแบต โน๊ตบุ๊ค แน่นอน แต่เอ๊ะ!! แล้วจะให้ทำยังไงหละในเมื่อการชาร์จทุกเครื่องมันก็ร้อนนิหน่า ถูกไหม? แต่ผมมีวิธีแนะนำครับผม นั้นก็คือ อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่อยู่ต่ำกว่าประมาณ 20% ซึ่งถ้าจะให้ดีควรอยู่ในระดับ 20-30% หรืออาจจะ 40% ก็ได้ครับ แต่ก็อย่าเกินนี้ เพราะยิ่งแบตเหลือน้อยมากๆ การชาร์จมันก็จะนาน ทำให้เกิดความร้อนมากกว่านั้นเอง และที่สำคัญอย่าให้แบตเตอรี่หรือตัวเครื่องโน้ตบุ๊คเราอยู่ใกล้กับสิ่งของร้อนๆ ด้วยนะครับ

2. ถอดแบตเตอรี่ออกขณะเล่นเกมหรือเวลาอยู่บ้าน


         หัวข้อนี้เห็นหลายๆ ท่านชอบถามกันว่าต้องถอดแบตเตอรี่หรือเปล่า? ต้องใส่ไว้ตลอดไหม? วันนี้ผมก็มีคำตอบให้ครับผม หากเราถอดไว้แล้ว แต่เกิดปัญหา ไฟดับ ไฟกระชาก มันก็อาจจะทำให้อุปกรณ์หรือโน้คบุ๊คของเราเสียหายได้ครับ ซึ่งอันที่จริงหากเราถอดแบตเตอรี่ออกมามันจะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานได้จริง แต่มันก็เพียงเล็กน้อย แล้วมันจะคุ้มเหรอครับ? กับสิ่งที่เราอาจจะเสียไป ดูแล้วมันก็คงได้ไม่คุ้มเสียนะครับ
แล้วอีกอย่างคือถอดแบตเตอรี่ตอนเล่นเกมส์ มันก็จะโยงกันที่กล่าวมาข้างต้น เพราะขณะที่เราเล่นเกมนั้นมันก็ต้องการทำงานที่มีประสิทธิภาพมีไฟเลี้ยงตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากเราถอดแบตเตอรี่ออกแต่ยังเสียบชาร์จนี้ก็โอเค แต่ถ้าเราเสียบแบตเตอรี่แต่ถอดสายชาร์จ ตัวนี้บอกเลยว่า เล่นเกมยังไงก็ไม่สนุกครับ หากเราถอดสายชาร์จโน้ตบุ๊คของเรามันก็จะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานทันทีทำให้การทำงานได้ไม่เต็ม 100% ถึงมันจะทำให้ถึงได้แต่ก็เล่นเกมได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมงแน่นอน หรืออาจจะไม่เกิน 30 นาทีด้วยซ้ำครับ ดังนั้น จะอยู่บ้านหรือนอกบ้านก็ควรใส่ไว้ ถ้าอยู่นอกบ้านเป็นไปได้ก็เสียบชาร์จไว้ก็ดีนะครับ เว้นแต่ไม่มีจริงๆนั้นก็โอเคเราก็ค่อยทำตามหัวข้อที่ 1 ครับผม

3. ถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ ไม่ต้องใช้ ไม่เสื่อม


             หลังจากที่ หัวข้อ 1, 2 เราใช้กันมาเยอะละ เก็บไว้มันซะเลยละกัน เย้ย!!! เก็บไว้ใช่ว่ามันจะดีนะครับ แบตเตอรี่นี้พูดถึงว่า ไม่ใช้ก็ไม่เสื่อมก็ไม่ใช่นะครับ เพราะมันเริ่มเสื่อมตั้งแต่มันออกมาจากโรงงานแล้ว ดังนั้นใครจะคิดจะซื้อเก็บไว้ก็ไม่แนะนำนะครับผม หรือถอดแบตเตอรี่ไปเก็บไว้ในที่เย็น ชาร์จให้เต็มแล้วเก็บไว้ หรืออื่นๆต่างๆ นาๆ การทำแบบนี้แบตเตอรี่ของท่านอาจจะสิ้นใจก่อนที่โน้ตบุ๊คตัวโปรดของท่านจะจากไปอีกด้วยซ้ำนะครับ ดังนั้นไม่ควรถอดเก็บไว้นะครับผม ไม่มีผลดีเลยสำหรับเรื่องนี้ มันก็เหมือนกับราคาโน้ตบุ๊คนั้นแหละครับ ซื้อมาสักพักราคาก็ลด พูดแล้วก็เจ็บใจ T^T เอาเป็นว่าไหนๆ ก็เสียตังแล้วก็ใช้มันให้คุ้มค่านะครับผม
            ปกติแบตเตอรี่ อายุประมาณ 1 ปีหรืออาจจะน้อยหรือมากกว่า ตามลักษณะการใช้งาน เราก็เริ่มเห็นปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมแล้วครับ เหมือนของผมใช้ก็ 1 ปีเต็มพอดี แบตก็ใช้งานได้สั้นลง 30 นาที จากปกติใช้ได้ 3 ชั่วโมง ตอนนี้ก็เหลือ 2 ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ ผมก็ใช้ถูกหลักบ้างไม่ถูกหลักบ้างตามสถานะการ และแต่ส่วนใหญ่แล้วแบตเตอรี่มักจะสิ้นใจก่อนโน้ตบุ๊คของเราอยู่แล้ว โดยปกติก็ โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง กับ แบตเตอรี่ 2 ลูก ก็ถือว่ากำลังดีครับ ก็คือใช้ตัวที่แถมมา และเราก็เปลี่ยนหนึ่งครั้ง มันก็จะสิ้นอายุไขของมัน หรือบางท่านก็อาจจะใช้แบตเตอรี่ลูกเดียวแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากครับผม
           สุดท้ายนี้ สำหรับผมก็ไม่ต้องการอะไรมากนะครับ ขอแค่คำขอบคุณ เป็นกำลังใจในการเขียนบทความต่อไปก็เพียงพอแล้วครับผม ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า ขอบคุณครับ ^^

ขอบคุณข้อมูลจาก Notebookspec.com

วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2561

[Windows Tips] สอนวิธีเพิ่มพื้นที่ Drive C โดยแบ่งจาก Drive D ด้วยวิธีการง่ายๆ

          
           ใครหลายคนที่ใช้คอมพิวเตอร์อยู่ตอนนี้มักจะประสบปัญหาไดร์ฟ C เต็มกันไม่น้อย ซึ่งบางทีมันก็เต็มโดยที่เราก็ไม่ได้ลงโปรแกรมเพิ่ม หรือลบแคลชแล้วก็ยังเหลือพื้นที่น้อยอยู่ดี แต่ในเครื่องเรายังเหลือพื้นที่ไดร์ฟ D อีกตั้งเยอะ ซึ่งเราสามารถเอาพื้นที่ไดร์ฟ D ที่เหลือมาเพิ่มพื้นที่ไดร์ฟ C ได้ด้วยโปรแกรม EaseUS Partition Master มาดูกันครับว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง (ไดร์ฟ C กับไดร์ฟ D ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ลูกเดียวกันเท่ากัน)


1. โหลดโปรแกรม EaseUS Partition Master จากลิ้ง 1 หรือ 2


2. กด Next ติดตั้งไปเรื่อยๆ แลอย่าลืมติ๊กในส่วนหน้าที่จะโหลดโปรแกรมเสริมออก ไม่งั้นจะได้โปรแกรมอื่นมาเพิ่ม และหน้าให้ใส่ชื่อกับเมลไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้



3. เมื่อเราติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้วก็จะได้โปรแกรม EaseUS Partition Master 12.5 มาอยู่หน้า Desktop


4. เมื่อเราเข้าโปรแกรม ให้เลือกที่ไดร์ D จากนั้นกด Resize/ move partition ที่มุมบนซ้าย


5. จากนั้นให้เลื่อนจากทางด้านซ้ายลดขนาดไดร์ D ตามจำนวนที่เราพอใจ สังเกตว่าในรูปลดพื้นที่ไดร์ D ไปประมาณ 97 GB เมื่อพอใจแล้วก็กด OK ด้านล่าง


6. เลือกไดร์ฟ C  จากนั้นกด Resize/ move partition ที่มุมบนซ้าย สังเกตที่กรอบสีเหลืองนั่นคือพื้นที่ที่เราสามารถเพิ่มลงไดร์ฟ C ได้

7. เลื่อนเพิ่มพื้นที่ไดร์ฟ C ไปทางด้านขวา จากนั้นกด OK


8. กลับมาที่หน้าแรก กด Apply ที่มุมบนขวา จะมีข้อความให้ยืนยัน กด Yes และ Yes อีกที ตัวเครื่องจะทำการีีสตาร์ทอัตโนมัติ สังเกตว่าพื้นที่ตรง Unallocated จะหายไป


9. เมื่อตัวเครื่องทำการรีสตาร์ทจะขึ้นหน้าประมาณนี้ ไม่ต้องตกใจ รอสักพักหนึ่งก็เป็นอันเสร็จสิ้นก็จะได้พื้นที่ไดร์ฟ C ขึ้นตามที่เรากำหนดมานั่นเองครับ


           เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับวิธีทีเพิ่มพื้นที่ไดร์ฟ C โดยจากแบ่งจากไดร์ฟ D ด้วยวิธีการง่ายๆ สามารถทได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องไปเพิ่งช่างหรือลง Windows ใหม่ ซึ่งวิธีการนี้ใช้ได้เฉพาะไดร์ฟ C กับไดร์ฟ D เป็นฮาร์ดดิสก์ลูกเดียวกันเท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มแบบฮาร์ดดิสก์คนละลูกได้ ซึ่งอย่างไรก็ตามในปัจจุบันฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ C ควรเป็น SSD ได้แล้ว เพื่อจะได้เปิด-ปิดคอมได้เร็วขึ้น รวมถึงเปิดปิดโปรแกรมได้รวดเร็วเช่นกัน แล้วเอาฮาร์ดดิสก์ปกติไว้เก็บข้อมูลจะดีกว่าครับ

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก Notebookspec.com

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

[Windowns 10 Tip] ความหมายของจอฟ้ามรณะกับรหัส Blue Screen Code และแนวทางแก้ไข


               

Blue Screen Code คืออะไร? (เคยไหม? เวลาที่เราเล่นอยู่ดีๆ คอมก็มีจอสีน้ำเงินขึ้นและมีรหัสอะไรไม่รู้ เยอะแยะไปหมด อ่านไม่ออก เช่น (stop code 0X0000002E) Data Bus Error หรืออาจจะมีรหัสอย่างอื่นอีก… แต่ละรหัสมันมีความหมายของมันครับ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ขึ้นมาเฉยๆ ไม่ต้องตกใจมันไม่ใช่ไวรัส แต่คอมของเรามีความผิดปกติในซอฟแวร์ ไม่ก็ฮาร์ดแวร์บางส่วน ทิปวันนี้เราจะพาไปแนะนำรู้จักกัน


1. (stop code 0X000000BE) Attempted Write To Read only Memory
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน ทางแก้ไขให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆ ที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ
2. (stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
ตัวนี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก hardware คือเกิดจากอัพเกรดเครื่องพวก Hardware ต่างๆ เช่น ram, harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไขก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัพเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัพเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัพเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะครับ เดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส
3. (stop code 0X0000002E) Data Bus Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์ดแวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม, cache L2 ของซีพียู, เมมโมรีของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป) และเมนบอร์ดเสีย
4. (stop code 0X000000D1) Driver IRQL Not Less Or Equal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการไดร์เวอร์กับ IRQ (Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1
5. (stop code 0X0000009F) Driver Power State Failure
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ “hibernate” แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดวส์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดวส์ซะ
6. (stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดวส์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1
7. (stop code 0X000000F2) Hardware Interrupt Storm
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1
8. (stop code 0X0000007B) Inaccessible Boot Device
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้จะมักเจอตอนบูตวินโดวส์ จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรือ boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบ multi OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน config ของ OS ขัดแย้งกัน
อีกกรณีหนึ่งที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดวส์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดวส์ เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์ เวอร์รุ่นล่าสุด
9. (stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดมีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดวส์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจากฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย
10. (stop code 0X00000077) Kernel Stack Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการและสาเหตุเดียวกับข้อ 9
11. (stop code 0X0000001E) Kmode Exception Not Handled
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น
ถ้ามีการแจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดวส์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่
Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ
12. (stop code 0X00000079) Mismatched Hal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอ ฟท์แวร์ว่าแอปพลิเคชั่นตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให ้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstall วินโดวส์ใหม่
สาเหตุอีกประการการคือไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไฟล์ที่เสีย
13. (stop code 0X0000003F) No More System PTEs
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดวส์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดวส์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors
ถ้าคุณเกิดปัญหานี้บ่อยครั้ง คุณสามารถปรับแต่ง PTEs ได้ใหม่ ดังนี้
1. ให้เปิด Registry ขึ้นมาแก้ไข โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Regedit
2. ไปตามคีย์นี้ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControlSe ssion ManagerMemory Management
3. ให้ดูที่หน้าต่างขวามือ ดับคลิกที่ PagedPoolSize ให้ใส่ค่าเป็น 0 ที่ Value data และคลิก OK
4. ดับเบิลคลิกที่ SystemPages ถ้าคุณใช้ระบบจอแบบ Multi Monitor ให้ใส่ค่า 36000 ที่ Value data หรือใส่ค่า 40000 ถ้าเครื่องคุณมี RAM 128 MB และค่า 110000 ในกรณีที่เครื่องมี RAM เกินกว่า 128 MB แล้วคลิก OK รีสตาร์ทเครื่อง
14. (stop code 0X00000024) NTFS File System
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุเกิดจากการรายงานผิดพลาดของ Ntfs.sys คือไดร์เวอร์ของ NTFS อ่านและเขียนข้อมูลผิดพลาด สาเหตุนี้รวมถึง การทำงานผิดพลาดของ controller ของ IDE หรือ SCSI เนื่องจากการทำงานของโปรแกรมสแกนไวรัส หรือ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เสีย คุณๆ สามารถทราบรายละเอียดของ error นี้ได้โดยให้เปิดดูที่ Event Viewer วิธีเปิดก็ให้ไปที่ start > run แล้วพิมพ์คำสั่ง eventvwr.msc เพื่อเปิดดู Log file ของการ error โดยให้ดูการ error ของ SCSI หรือ FASTFAT ในหมวด System หรือ Autochk ในหมวด Application
15. (stop code 0X00000050) Page Fault In Nonpaged Area
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุการจากการผิดพลาดของการเขียนข้อมูลในแรม การแก้ไขก็ให้ทำความสะอาดขาแรมหรือลองสลับแรมดูหรือไม่ก็หาโปรแกรมที่ test แรมมาตรวจว่าแรมเสียหรือไม่
16. (stop code 0Xc0000221) Status Image Checksum Mismatch
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุมาจาก swapfile เสียหายรวมถึงไดร์เวอร์ด้วย การแก้ไขก็เหมือนข้อ 15
17. (stop code 0X000000EA) Thread Stuck In Device Driver
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการของ error นี้คือการทำงานของเครื่องจะทำงานในแบบวนซ้ำๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตร์ทตลอด หรือแจ้ง error อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุด ปัญหานี้ สาเหตุอาจจะเกิดจาก bug ของโปรแกรมหรือสาเหตุอื่นๆ เป็นร้อย การแก้ไขให้พยายามทำตามนี้
1. ให้ดูที่ power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณ หรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไปไม่เหมาะกับ power supply ของคุณ ก็ให้เปลื่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น ปัญหานี้ผมเคยมีประสพการณ์แล้ว 2 ครั้ง คือ
2. ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแน่ใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อนที่จะเกิดปัญหา
3. ตรวจดูการ์ดจอและเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นสวนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
4. ดูที่ bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปกของการ์ดหรือไม่
5. เช็คดูที่ผู้ผลิตเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่หรือไม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
6. ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น “PXE Resume/Remote Wake Up” โดยไปปิดที่ BIOS
18. (stop code 0X0000007F) unexpected Kernel Mode Trap
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกับนัก overclock (ผมก็คนหนึ่ง) เป็นอาการ RAM ส่งข้อมูลให้ CPU ไม่สัมพันธ์กันคือ CPU วิ่งเร็วเกินไป หรือร้อนเกินไปสาเหตุเกิดจากการ overclock วิธีแก้ก็คือลด clock ลงมาให้เป็นปกติ หรือ หาทางระบายความร้อนจาก CPU ให้มากที่สุด
19. (stop code 0X000000ED) Unmountable Boot Volume
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการที่วินโดวส์หาฮาร์ดดิสก์ไม่เจอ (ไม่ใช่ตัวบูตระบบ) ในกรณีที่คุณมีฮาร์ดดิสก์หลายตัว หนึ่งในนั้นคุณอาจใช้สายแพของฮาร์ดดิสก์ผิด เช่น ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 33MB/secound ซึ่งต้องใช้สายแพ 40 pin แต่คุณเอาแบบ 80 pin ไปต่อแทน

          การแก้ไข ปัญหาอาการจอฟ้านั้น ไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ ถ้าหากเรารู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากส่วนใด ระหว่าง Hardware และ Software ซึ่งเป็นสาเหตุที่ไม่สัมพันธ์กันกับระบบตัววินโดวส์ ไว้เจอกันในคราวต่อไปนะครับ
ขอบคุณจากเว็บ Notebookspce.com

วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561

Windows 10 ของแท้ !! ... ดีอย่างไง !!

            


               บุคคลใดหรือใครที่ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ หลายท่านคงเลือกคอมพิวเตอร์สเปคที่ถูกใจ ในราคาที่คุณพอจ่ายได้ใช่หรือไม่? แต่สิ่งสำคัญที่ไม่แพ้การเลือกสเปคเครื่องคอมฯเลยก็คือตัวระบบปฏิบัติการ ที่คุณสามารถใช้งานได้ทั้งการทำงานเดี่ยว การทำงานร่วมกับเพื่อนในบริษัท และการพักผ่อนด้วย ซึ่งระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้มากสุดนั่นคือ Windows 10 นั่นเอง แต่การซื้อระบบปฏิบัติการนั้นก็ต้องเลือกและสังเกตว่าต้องเป็นของแท้จาก Microsoft ด้วย เพื่อความคุ้มค่า ทั้งการรับประกันความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูล สามารถอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดได้เท่าที่ต้องการ ลองตรวจสอบเครื่องคอมของท่านที่กำลังใช้อยู่ หรือเครื่องคอมเครื่องใหม่ หรือเครื่องที่กำลังอัพเดตซอฟต์แวร์ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณ ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เป็น Windows 10 ของแท้หรือไม่


         หากคุณติดตั้ง Windows 10 แบบใช้ KEY ปลอมที่ได้จากการ Crack หรือการหา Key เก่าคนอื่นมาใส่ หรือติดตั้งผ่านการดาวน์โหลดที่ไม่ใช่ช่องทางที่ Microsoft แนะนำ ก็เสี่ยงที่จะมีไวรัส มัลแวร์ Ramsomware มาขโมยข้อมูล ทำลายข้อมูล หรือมาทำให้คอมพิวเตอร์เกิดความเสียหาย ซึ่งบ่อยครั้งที่ไม่สามารถประเมิณค่าได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่ระบาดหนักในช่วงกลางปี 2017 ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างหนักไปทั่วโลก
         ดังนั้นการเลือกและติดตั้ง Windows ก็เป็นสิ่งสำคัญ และต้องเป็น Windows 10 ของแท้ ถึงจะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลภายในตัวเครื่องของผู้ใช้งานได้ และคุ้มค่ามากขึ้นกับฟีเจอร์ใหม่ๆที่เพิ่มประสบการณ์ใหม่ในการใช้คอมให้กับผู้ใช้งานด้วย ซึ่งได้รับการอัพเดตฟรีๆโดยไม่ต้องเสียค่าอัพเดตเพิ่มเติมตลอดอายุการใช้งาน


ใช้ Windows 10 ของแท้แล้วยังไง?

           หากคอมคุณใช้งาน Windows 10 ของแท้ จริงๆ  เครื่องของคุณจะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วย Windows Defender Antivirus นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งาน โดยไม่ต้องเสียเงินและเสียเวลาในการซื้อ Antivirus เพราะ Windows ย่อมเข้าใจว่า ระบบไหนผิดปกติก็จะแจ้งเตือนให้กับคุณทันทีเพื่อให้แก้ปัญหาตรงจุด สามารถอัพเดทโปรแกรม Anti-virus เวอร์ชั่นล่าสุดได้เสมอเมื่อต้องการ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันตัวไวรัส มัลแวร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และตอนนี้ Windows 10 เวอร์ชั่นใหม่ Fall Creators Update มีฟีเจอร์สามารถป้องกันภัยคุกคามจาก มัลแวร์เรียกค่าไถ่ Ransomware ด้วย
           Windows 10 “ของแท้” ช่วยให้คุณประหยัด และได้สิทธิอัพเดทเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ได้ตลอดอายุการใช้งานฟรี โดยหลังอัพเดตแล้ว มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ อัพเดทซอฟต์แวร์ได้โดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้งานสามารถอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดได้ตลอดอายุการใช้งานอุปกรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติม
          ผู้ใช้งาน Windows 10 ของแท้ สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ตัวใหม่ล่าสุดได้ทันทีที่เปิดใช้งาน เช่น  3D บน Windows 10, Windows Ink ตัวช่วยในการจดโน้ตที่ใช้งานคู่กับปากกา

และ Windows Hello ฟีเจอร์ที่เป็นระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ล่าสุด สามารถล็อคอินเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่าน แค่สแกนใบหน้าผ่านทางเว็บแคมของคุณ
            นอกจากนี้ Windows 10 ยังมาพร้อมกับ Cortana ผู้ช่วยที่อยู่ข้างคุณ สามารถสั่งงานด้วยเสียง เพื่อเปิดแอป และควบคุมคำสั่งต่างๆของคอมพิวเตอร์ได้

          นอกเหนือจากการได้ฟีเจอร์ใหม่แล้ว เฉพาะผู้ใช้ Windows 10 ของแท้ ทาง Microsoft พร้อมการสนับสนุนอื่นๆเพิ่มเติม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น Call center ที่คอยให้คำปรึกษา หรือ Live online Chat ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้พูดคุยกับทีมสนับสนุนแบบสดๆผ่านการพิมพ์ข้อความตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด
         โดยสรุปแล้ว หากใช้ Windows 10 ของแท้ เครื่องพีซีจะได้รับการปกป้องให้ปลอดภัย และได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น ฟรีตลอดอายุการใช้งาน และไม่ต้องเสี่ยงกับการรับไวรัส มัลแวร์ ที่จะมาสร้างความเสียหายให้กับข้อมูล หรือคอมพิวเตอร์ของคุณ

         ใครที่ยังไม่ได้ใช้ Windows 10 ของแท้ลิขสิทธิ์จาก Microsoft และอยากจะหันมาใช้ สามารถหาซื้อ Windows 10 ของแท้ได้ที่ ร้านบานาน่าทุกสาขา หรือ www.bananastore.com  และติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดใช้งาน Windows 10 ของแท้ได้ที่ https://support.microsoft.com/th-th/help/12440/windows-10-activation
เคดดิตจากเว็บ : it24hrs

วันจันทร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2561

[Windows Tips] Automatic Repair ซ่อมระบบ แก้ไข Windows 10 ไฟล์เสีย ระบบพัง


              หลายๆ คนอาจเคยเจอกับปัญหาเวลาที่เครื่องคอมทำงานผิดปกติหรือไม่สามารถใช้งานได้ชั่วขณะ หลังจากติดตั้งโปรแกรมหรือไดรเวอร์หรือเกิดจากปัญหาอื่นๆ ซึ่งมักจะเกิดซ้ำๆ ทุกครั้งที่เปิดเครื่องขึ้นมา แต่ในกรณีที่ระบบสามารถบูตเข้าวินโดวส์ได้ และยังพอทำงานต่อได้ ก็ควรจะต้องหาทางแก้ไขหรือปรับปรุงให้ระบบกลับมาทำงานได้ตามปกติ เราสามารถใช้วิธีการ Automatic Repair หรือ Repair Startup ได้ด้วยวิธีการไม่กี่ขั้นตอน

1. เริ่มต้นด้วยการเปิดเข้าสู่ Settings App ด้วยการกดปุ่ม Windows + I บนคีย์บอร์ด



2.จากนั้นให้เลือกไปที่ Update & Security เพื่อเข้าสู่โหมดการทำงาน


3.เลือกที่ Advance Startup ให้คลิกที่ Restart Now ระบบจะทำการรีสตาร์ท เพื่อเริ่มต้นสู่การแก้ไข



4.เมื่อเข้าสู่หน้า Choose Option หน้านี้ให้เลือกที่ Troubleshoot



5.เลือกที่ Advance options

6.ในหน้านี้จะมีให้เลือกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น System Restore, System Image Recovery และอื่นๆ ให้เราเลือกที่ Startup Repair



7.จากนั้นระบบจะแจ้งว่ามีผู้ดูแลหรือ Administrator ซึ่งปรากฏชื่อให้เห็น หากมีหลายคน ก็จะมีชื่อเพิ่มขึ้น ในส่วนนี้ให้เราคลิกที่ชื่อได้เลย เช่นในเครื่องนี้จะเป็น CSSSD เป็นต้น



8.จากนั้นระบบจะให้เราใส่ Password ซึ่งก็เป็นรหัสประจำตัวที่เราใช้ในการ Log-in ปกติ



9.จากนั้นเมื่อระบบทำการปรับปรุงหรือแก้ไขแล้ว ก็จะรายงานข้อมูลให้เราได้ทราบ แต่ถ้าในกรณีที่ไม่มี Error ใดเกิดขึ้น ก็จะไม่มีรายงานความผิดปกติ



10.แต่ถ้าในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนหรือคืนค่าเดิมทั้งหมดของระบบ ให้กลายเป็นเหมือนการติดตั้งวินโดวส์ใหม่ๆ ก็สามารถเลือก Reset this PC แต่สิ่งที่จำเป็นคือ ควรบันทึกไฟล์ข้อมูลสำคัญเอาไว้ด้วย



11.เมื่อเสร็จจากขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆ เรียบร้อยให้เลือก Continue เพื่อกลับเข้าสู่ Windows 10 อีกครั้งหนึ้ง



12.แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว



ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเว็บไซต์ Notebookspec.com

วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2561

[Photoshop Tip] รูปขนาดต่างๆ ที่ใช้ใน Facebook, YouTube, instagram





facebook

  • รูป Profile 180 x 180 pixels (แสดงผลจริง 160 x 160 pixels) แต่แนะนำให้ทำขนาด 1200 x 1200 pixels ไปเลยครับ
  • รูป Cover Photo 851 x 315 pixels
  • รูปสำหรับแสดงเวลาแปะ Link 1200 x 627 pixels
  • รูปทั่วไป 1200 x 1200 pixels
  • รูปใน Highlighted/milestone 1200 x 717 pixels

Twitter

  • รูป Header 1500 x 1500 pixels
  • รูป Profile 400 x 400 pixels
  • รูปทั่วไป 880 x 440 pixels

Google+

  • รูป Profile 250 x 250 pixels
  • รูป Cover 2120 x 1192 pixels
  • รูปทั่วไป 800 x 600 pixels

Pinterest

  • รูป Profile 600 x 600 pixels
  • รูปใน Pin 600 pixels x ความสูงตาม Scale ภาพ
  • รูป Thumbnail ที่ Board 222 x 150 pixels

Instagram

  • รูป Profile 161 x 161 pixels
  • รูปเวลาแสดงผลบนจอคอม 612 x 612 pixels
  • รูปที่แสดงผลในหน้า Feed 510 x 510 pixels

YouTube

  • รูป Profile 800 x 800 pixels
  • รูป Channel Art (คล้ายๆ กับรูป Cover แต่จะครอบคลุมในทุกจอภาพ) 2560 x 1224 pixels
  • รูป Custom Thumbnail ของ Video 1280 x 720 pixels
ขอบคุณเคดิตจาก  เวปนี้ เลย !!

3 ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค

             หลายท่านมีคำถามมากมายเกี่ยวกับแบตเตรอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จ, แบตเสื่อม ประหยัดแบต โน๊ตบุ๊ค และอีกมากมาย เนื่องด้วยในบรรดาอุป...